ปัจจัย 3 ประการ ที่ทำให้บริษัทนำเที่ยวประสบความล้มเหลวในธุรกิจ
- การวางแผนที่ไม่ถูกต้อง
- ขาดการวางแผนการบริหารงาน
- ขาดการวางแผนทางการเงิน
การวางแผนจึงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจการจัดนำเที่ยวแต่ละปี
- การผลิตสินค้า ซึ่งได้แก่ โปรแกรมนำเที่ยวต่างๆ
ที่บริษัทจัดทำขึ้นเพื่อขายให้แก่ลูกค้า
- วิธีที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการจัดนำเที่ยว
คือ ต้องมีการวางแผนที่ดี
เฟย์ (Fay, 1992 : 73-80) ได้อธิบายถึงขั้นตอนการวางแผน
👉ขั้นตอนที่ 1 : วิเคราะห์สถานการณ์
วิเคราะห์สถานการณ์การจัดนำเที่ยวที่บริษัทนำเสนอขายต่อลูกค้า
ตลอดจนวิเคราะห์ถึงความสำเร็จ ความล้มเหลข้อดี ข้อเสีย ของการจัดนำเที่ยวในแต่ละปี
การพิจารณาสภาพพื้นฐานของลูกค้าโปรแกรมนำเที่ยว
และราคา
รายการใดที่ลูกค้าให้ความสนใจมาก ปานกลาง น้อย
แล้วนำมาวิเคราะห์ถึงเหตุผลเพื่อพัฒนาการจัดนำเที่ยว
👉 ขั้นตอนที่ 2 : วิเคราะห์บริษัทคู่แข่ง
“รู้เขา รู้เรา”
วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งในการดำเนินงานของเรา
ในส่วนที่คล้ายคลึงกับบริษัทอื่น เช่น จุดหมายปลายทางของการเดินทาง
ช่วงเวลาของการจัด ราคาบริการท่องเที่ยว
ทำให้ได้ข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการวางยุทธศาสตร์การจัดนำเที่ยวได้
เช่น การแนะนำจุดหมายปลายทางใหม่ เทคนิคการจัดนำเที่ยวแบบเหมาจ่าย (Package
tour) หรือการกำหนดราคาบริการท่องเที่ยว
👉ขั้นตอนที่ 3 : พิจารณาเพิ่มการขาย
นำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ทั้ง 2
ขั้นตอน มาพิจารณาเพื่อปรับปรุงยอดการขาย ในแง่ของรายการนำเที่ยว จำนวนลูกค้า
หรือเทคนิคการขาย
ส่วนช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นและการติดต่อกับธุรกิจผลิตสินค้าบริการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องจะไมลำบากเหมือนช่วงฤดูการท่องเที่ยว
วิธีที่ดีที่สุดคือการจัดการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลในราคาที่ถูก
👉ขั้นตอนที่ 4 : พิจารณาหาตลาดเป้าหมาย
ตลาดเป้าหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มที่ให้ความสนใจ
👉ขั้นตอนที่ 5 : พัฒนาแนวทางการติดต่อสื่อสาร
พัฒนาการติดต่อสื่อสาร ที่จะให้ไปถึงตลาดเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงการพิจารณาหาตลาดใหม่
1. ประชาสัมพันธ์ :
คำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีกับสาธารณชน
2. เผยแพร่ : เป็นการบอกกล่าวผลผลิตของบริษัท
โดยการพิมพ์เผยแพร่
3. โฆษณา : โฆษณาทางสื่อต่างๆ
รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมหรือ นิทรรศการทางการท่องเที่ยว
4. ทางไปรษณีย์ :
ติดต่อโดยตรงกับลูกค้าทางไปรษณีย์
5. ขายโดยตรง :
เป็นการขายหน้าร้านหรือขายทางโทรศัพท์
การจัดทำแผนระยะสั้นและระยะยาว
- การจัดทำแผนระยะยาว ควรจัดวางแผนในช่วง 5-10-20 ปี เป็นการวางแผนเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาบริษัทไปในทิศทางที่ต้องการ
- การวางแผนระยะยาวนี้จะมีการกำหนดแนวทางการพัฒนาโปรแกรมนำเที่ยว จะพิจารณาตามความสนใจของกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย
การวางแผนระยะสั้น การวางแผนจัดนำเที่ยวในแต่ละปี
- ประเภทการจัดนำเที่ยว
: บริษัทนำเที่ยวต้องมีนโยบายในการจัดนำเที่ยวว่า จะจัดนำเที่ยวประเภทใดบ้าง เช่น
ประเภทรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ
หรือประเภทจัดนำเที่ยวให้นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวภายในประเทศหรือเที่ยวต่างประเทศ
- ภูมิภาค/จุดหมายปลายทาง
: มุ่งจัดภูมิภาค ยุโรป เอเซีย หรืออเมริกา เป็นต้น โดยเน้นหนักประเทศใดบ้าง
ถ้าเป็นภายในประเทศมุ่งเน้นภาคหรือจังหวัดใดบ้าง
- วัตถุประสงค์ :
ในการจัดนำเที่ยวแต่ละครั้งควรจะวางวัตถุประสงค์ของการจัดแต่ละครั้งว่ามีจุดมุ่งหมายที่จะให้นักท่องเที่ยวได้อะไรบ้าง
- ช่วงเวลาของการจัด :
ในการจัดนำเที่ยวจะจัดกี่ครั้งในช่วงใดบ้าง ใช้ระยะเวลากี่วัน
ต้องพิจารณาช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ของสถานที่ที่จะไป
ประกอบกับเวลาว่างของนักท่องเที่ยว
- ความคาดหวังของลูกค้า :
ลูกค้าหวังจะได้รับบริการที่ต้องการ
- ลูกค้าเป้าหมาย :
พิจารณาถึงบุคคลที่สามารถท่องเที่ยวได้เป็นบุคคลใด
- กิจกรรม :
จะจัดกิจกรรมเช่นไรให้สอดคล้องกับความสนใจของลูกค้า
- ปริมาณการจัดนำเที่ยว :
วางแผนกกำหนดจำนวนโปรแกรมนำเที่ยวที่จะจัดแต่ละปี โดยแยกตามประเภทต่างๆ
- แมนซินี (Mancini, 1990 : 198)

- ก่อนจะวางแผนจัดนำเที่ยว
ควรจะมีการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้า
โดยส่งแบบสอบถามให้ตอบก่อนสิ้นสุดการเดินทางแต่ละครั้ง
การวางแผนจัดนำเที่ยวแต่ละครั้ง จะต้องคำนึงถึง
- การกำหนดวัน ต้องคำนึงถึงระยะทาง
จำนวนสถานที่ท่องเที่ยวลูกค้าเป้าหมาย
- ลูกค้าเป้าหมาย
ถ้าลูกค้าอายุมากควรจัดการท่องเที่ยวระยะสั้น รายการไม่แน่น
- ระยะทางเป็นสิ่งสำคัญ
- ความบันเทิง
- การซื้อของ
- ทำเลที่ตั้งของโรงแรม
- จุดแวะพัก
ในต่างประเทศจะมีการจำกัดเวลาในการขับรถให้อยู่ในช่วงหนึ่ง
- ร้านอาหาร
- การคิดราคา ต้องคำนึงถึงอัตราการแลกเปลี่ยนเงิน
ข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายปลายทาง
องค์ประกอบ การสำรวจเส้นทางและการวางแผนจัดรายการนำเที่ยว
คุณสมบัติและจรรยาบรรณของผู้วางแผนจัดรายการนำเที่ยว
- ความซื่อสัตย์
ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากสถานประกอบการ
- วางตัวเป็นกลาง
- มีความสามรถเรียนรู้ประเภทของลูกค้าและAgent
ต่างๆ
- จัดงานตามความสามารถของมัคคุเทศก์
- ไม่วิจารณ์การทำงานของมัคคุเทศก์ให้อีกคนหนึ่งฟัง
- สามารถประสานงานได้ดี
- จัดทัวร์ตามรายการไม่ตัดทอน
เปลี่ยนแปลงจากข้อตกลง
- ไม่จัดทัวร์ผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรม
- มีสามัญสำนึก
- มีความอดทนเสียสละ
- มีความสามารถในการเลือกสินค้าบริการที่หลากหลายมานำเสนอลูกค้า
ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยกับการทำงานของผู้วางแผน
- ฝ่ายบริหารให้ความไว้วางใจ เกรงใจ Tour Operation มากเกินไป
- Tour Operation เรียกร้องสถานประกอบการณ์
- Tour Operation ขโมยงานบริษัทไปทำเองเพื่อหาผลประโยชน์
- ทำงานแบบมักง่าย ไม่รับผิดชอบ ไม่ตามงาน
- Inbound มักให้ Tour Leader เป็นไกด์
การแก้ปัญหา
- จัดให้มี Tour Operation มากกว่า 1 คน
- จัดให้มีการตรวจสอบที่ชัดเจนกว่าเดิม
- สับเปลี่ยนหมุนเวียนพนักงานมาทำงานแทนกันโดยไม่ให้เสียงาน
- ผู้บริหารงานดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
- ผู้บริหารงานเป็น Tour Operationเองเลย
การสำรวจเส้นทาง 3 ลักษณะ
- การสำรวจเส้นทางเดิม
- การสำรวจเส้นทางใหม่
- การสำรวจเส้นทางเพื่อเป็นตัวแทนขาย
การสำรวจเส้นทางเพื่อการจัดนำเที่ยว
- การสำรวจเส้นทาง คือ
การที่ผู้มีหน้าที่จัดนำเที่ยว
หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดนำเที่ยวต้องเดินทางไปยังเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวที่คิดว่าจะนำมาจัดเป็นรายการนำเที่ยว
ข้อดีของการได้สำรวจเส้นทางก่อนการจัดนำเที่ยว
- สามารถป้องกันและประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเสียไปจาการไม่รู้ ไม่ชำนาญพื้นที่
- ได้ข้อมูลสภาพที่เป็นปัจจุบัน
- ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในการจัดนำเที่ยว เกิดความเกรงใจมากกว่า เพราะได้เจอผู้ใช้บริการตัวจริง การต่อรองดีกว่าทางโทรศัพท์
ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น
- บริษัทสิ้นเปลืองงบประมาณมากขึ้น
- การสำรวจเส้นทางไม่เกิดประโยชน์สูงสุดถ้าผู้บริหารหรือเจ้าของไม่ได้ไปสำรวจด้วยตนเอง
รูปแบบของการจัดรายการท่องเที่ยว
การจัดรายการนำเที่ยวประมาณ 2-4
วัน ใช้ระยะทางจากที่พักไปแหล่งท่องเที่ยว
ไม่ควรเกิน 100
กม.
การจัดรายการนำเที่ยวที่เปลี่ยนที่พักทุกวัน
การจัดรายการคล้ายแบบที่ 2 แต่สถานที่ออกเดินทางไปและกลับแตกต่างกัน ไม่ใช้เส้นทางเดียวกัน ราคาแพงที่สุด
การทำรายการนำเที่ยว และการคิดราคา
- DOMESTIC
- INBOUND
- OUTBOUND
ผู้มาเยือน และนักท่องเที่ยว
ผู้มาเยือน (Visitor) หมายถึง ผู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งพักแรมค้างคืน และไม่พักแรมค้างคืน ได้แก่
- นักท่องเที่ยว (Tourist) ผู้เดินทางมาเยือนประเทศไทยโดยพักค้างแรมอย่างน้อย 1คืน หรือเกินกว่า 24 ชั่วโมง แต่พักอาศัยอยู่ไม่เกิน 90 วัน จุดประสงค์เพื่อการพักผ่อนทัศนะศึกษา ร่วมแข่งขันกีฬา หรือฟื้นฟูสุขภาพ เป็นต้น
- นักท่องเที่ยวที่ไม่ค้างคืน (Excursionist) หมายถึง ผู้เดินทางมาเยือนชั่วคราว โดยไม่ได้พักแรมค้างคืนหรืออยู่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ผู้มาเยือน และนักท่องเที่ยว
ผู้มาเยือน (Visitor) หมายถึง ผู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งพักแรมค้าง คืน และไม่พักแรมค้างคืน ได้แก่
- นักท่องเที่ยว (Tourist) ผู้เดินทางมาเยือนประเทศไทยโดยพักค้างแรมอย่างน้อย 1 คืน หรือเกินกว่า 24 ชั่วโมง แต่พักอาศัยอยู่ไม่เกิน 90 วัน จุดประสงค์เพื่อการ พักผ่อน ทัศนะศึกษา ร่วมแข่งขันกีฬา หรือฟื้นฟูสุขภาพ เป็นต้น
- นักท่องเที่ยวที่ไม่ค้างคืน (Excursionist) หมายถึง ผู้เดินทางมาเยือนชั่วคราว โดยไม่ได้พักแรมค้างคืนหรืออยู่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น